วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

วันที่ สิบเก้า เดือน เมษายน พุทธศักราช สองพันห้าร้อยห้าสิบเจ็ด เวลา ยี่สิบนาฬิกา สามสิบนาที

   ปลดปล่อยจิตใจ อ่อนไหว
เหน็ดเหนื่อยหมดแรงฝืนทนต่อไป
   ความฝันวันวาน หลงลืมเสียสิ้น ไม่อาจจดจำ ไม่อาจสร้างใหม่
ไร้เข็มทิศ  ไร้จุดหมาย พาไร้ความตั้งใจ
   ใช้ชีวิตพอให้ผ่านไปวันๆ

  ฤดูกาลเปลี่ยนผัน  ฉันพบตัวเองมีตัวตนที่อ่อนจาง
มองใบไม้ที่ร่วงหล่น ค้นหาความหมายของชีวิตในวันเวลาที่ผ่านมา "ช่่างว่างเปล่าจนน่าใจหาย"
พยามยามเท่าไหร่ เหมือนยิ่งเดินไกลออกไปจากทางที่ตั้งใจและเป้าหมายที่มี และเมื่อหันหลังกลับไปยังจุดที่เริ่มต้นขึ้น มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้อีกแล้ว

วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2556

12-10-2013

ความรัก เป็นส่วนผสมของความรูเ้สึกหลายๆอย่าง
ความต้องการ ความใส่ใจ ความสม่ำเสมอ
แต่บางคน อาจมีความรักได้ แม้เพียงสบตา

จงเป็น อย่างที่เคยเป็น
จงซื่อตรง ต่อความรู้สึก ของตนเอง(แต่จงระวังในการแสดงออกของตน)
จงปล่อยวาง ถ้าบางสิ่ง ไม้ได้ดังต้องการ
และรู้เสม ว่ตนเอง นั้นกระทำสิ่งฃใด 

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ค่ำคืน

เหนื่อย จนอยากจะหยุดเวลาไว้ 
ไม่อยากลืมตา ไม่อยากพบใคร 
หัวใจ อ่อนล้าจนหมดแรงก้าวเดิน
เคยหวัง ว่าความฝันซักวันคงเป็นจริง
อยากละทิ้ง แต่ก็ทำไม่ได้
มองผู้คน ผ่านเข้ามา แล้วผ่านไป
ท้อ บอกได้เพียงแค่ว่า ท้อ
รู้สึกมืดมน ไร้ทางไปต่อ ไร้ซึ่งจุดหมาย
ไร้ความคิด ไร้ความฝัน ไร้กำลังกายใจ
สับสน วุ่นวาย ทุกข์ทน

เหมือนความคิด ที่ไม่ใช่ความคิด
เหมือนมีฝัน แต่ไร้ ซึ่งความฝัน
เหมือนไม่เหงา แท้จริง กลับยิ่งเหงา
เหมือนสุขใจ แต่ข้างใน ว่างเปล่า

หลงทาง แท้จริง ฉันหลงทาง
เขาวงกตแห่งจิตใจ ความคิดที่กักขัง
ก่อกำแพง ขังตัวเองสูงขึ้นไป สูงขึ้นไป
แล้วฝังตัวเอง ลงในส่วนที่ลึกที่สุด ท่ามกลางความมืดมน และสูญเสียจิตวิญญาณอย่างช้าๆ โดยที่แสงสว่าง ไม่อาจส่องถึง
ไม่อาจก้าวเดินต่อ ไม่อาจเดินถอยหลัง และตายลงไปอย่างไร้ค่า
สูญสลาย และไม่มีใครจดจำ และไม่เหลืออะไรอีกต่อไป

วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

จิต(ใต้)สำนึก

บางครั้ง ก็รู้สึกเบื่อหน่ายตัวเองที่เป็นอยู่เหลือเกิน
ต้องคอยทำตามคำพูดของคนอื่นมากมาย จนไม่มีเวลาที่จะสนใจตัวเอง
เฝ้าเก็บงำทุกความรู้ึสึกมากมายไว้ข้างในจิตใจ
ทำไมน่ะเหรอ
อาจเป็นเพราะสายตาแห่งความคาดหวังที่ได้รับมาตั้งแต่เด็ก
ไม่อาจทำอะไรตามใจตัวเองได้
รู้สึกดีใจหรือเสียใจก็เก็บเอาไว้จนเป็นนิสัยติดตัว
ไม่รู้สิ
อาจเป็นเพราะไม่กล้าที่จะตัดสินใจต่อสู้ด้วย
ได้แต่ยอมรับและก้มหน้าก้มตาทำไปตามคำสั่ง

inside

ความรู้สึกที่อ่อนล้า ท่ามกลางวันเวลาที่ผันผ่าน
ทิ้งไว้เพียง เศษฝุ่นของความเหน็ดเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นทุกๆวัน
เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น จนทนแบกรับไว้ไม่ไหว
เคยคิดว่า ตัวเองนั้นแข้มแข็งมากพอที่จะทนรับวามเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวัน
และเวลา ก็สอนให้รู้ว่า เรานั้นอ่อนแอ มากกว่าที่ตนเองคิด
เหนื่อยเหลือเกิน จนไม่อาจอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้
ท้อ จนไม่รู้ว่าจะทนได้อีกนานแค่ไหน
แม้ว่า ข้างในใจลึกๆ จะรู้คำตอบดีก็ตาม แต่ฉันก็ไม่อยากจะยอมรับตัวเอง
สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของฉัน คือเส้นด้ายบางๆ ของเหตุผลและจึตสำนึกของความเป็นจริง
ไม่เช่นนั้น ตัวตนของฉัน คงต้องหายไป ตลอดกาล

วันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2554

คิดถึง

ฉันยังคงนั่งมองดาว
ท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดมา
เธออยู่ไหนนะ มีฉันบ้างไหมในสายตา
ส่วนตัวฉันนั้นรู้แต่ว่า ยังคิดถึงเธออยู่ทุกนาที

วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ศรัทธา


เมื่อความหวังสูญสิ้น
จงอย่าปล่อยให้ความศรัทธามอดดับ
แรงใจที่หายไป...คงจะกลับมาในไม่ช้า
เมื่อศรัทธายังอยู่...ความหวังก็จะยังคงอยู่
ชีวิต มิได้มีแต่ความทุกข์
วันข้างหน้าที่สดใสยังคงมีเสมอ
ล้มแล้วต้องลุก
เพื่อที่จะเจอกับความสุข..ในวันต่อไป